ประวัติความเป็นมาเสื้อยืด ตอนที่1

ประวัติความเป็นมาของเสื้อยืดที่ลูกค้าที่ต้องการทำเสื้อยืดหลายๆคนยังไม่ทราบถึงประวัติความเป็นมาของเสื้อยืดว่าเสื้อยืดเกิดมาได้ยังไงวันนี้แอดมินจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับเสื้อยืด

     เมื่อมนุษย์มีวิวัฒนาการ มีความรู้   และอารยธรรมที่เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น  เสื้อผ้า  เครื่องนุ่งห่ม  ได้ถูกนำมาเพิ่มคุณค่าทางด้านอารมณ์  เพื่อรองรับความสุนทรี  ศิลปะ  และแสดงออกซึ่งความเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมทางเชื้อชาติและชนชาติต่างๆ อย่างวิจิตรบรรจง

     ในยุคล่าอาณานิคม  ประมาณคริสต์ศตวรรษที่  15  ชาติทางทวีปยุโรปและอเมริกา เช่น ฝรั่งเศส ฮอลันดา  สหราชอาณาจักร  สหรัฐอเมริกา  สเปน ฯลฯ  ต่างมีวัตถุประสงค์ที่แสวงหาดินแดนใหม่เพื่อถือครองทรัพยากร  รวมถึงการสร้างเมืองในอาณานิคมผ่านเส้นทางการเดินเรือข้ามสมุทร

     ชาติเหล่านี้  จึงเปรียบเสมือนผู้เผยแพร่วัฒนธรรมทางการแต่งกาย เสื้อผ้า  เครื่องนุ่งห่ม  ที่ได้รับความนิยมในชาติและวัฒนธรรมของตน  ให้กระจายไปทั่วโลก  ผ่านประเทศที่ตกเป็นอาณานิคม  วัฒนธรรมดั้งเดิมบางชาติถูกกลืนหาย  บางชาติยอมรับวัฒนธรรมเหล่านี้มาปรับใช้กับของเดิมของตน  เพราะแสดงถึงความเป็นผู้มีอารยะและสิ่งที่เรียกว่า  แฟชั่น

     โดยวัฒนธรรมการสวม ที-เชิร์ต  ของคนยุคปัจจุบันนั้นกล่าวได้ว่า  มีจุดกำเนิดเมื่อราวสงครามโลกครั้งที่ 1 ประมาณปี ค.ศ. 1914 ถึง ปี ค.ศ. 1918

     จากการที่ชุดยูนิฟอร์มทหารของแต่ละประเทศนั้นย่อมแตกต่างกัน  ซึ่งชุดยูนิฟอร์มของทหารทางฝั่งทวีปยุโรป  โดยเฉพาะทางฝรั่งนั้น  มีความโดดเด่นและใช้งานได้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ

     เพราะทหารเหล่านี้ต้องใส่ยูนิฟอร์ม  ที่ประกอบไปด้วยเสื้อชั้นในที่เรียกว่า เสื้อฝึก  เป็นเสื้อคอกลมแขนสั้นไม่เลย ข้อศอก  ไม่มีกระดุม  ไม่มีปกเสื้อ  ไม่มีกระเป๋า  สวมใส่สบาย  เพราะทอจากผ้าฝ้ายมีน้ำหนักเบา  สามารถซับเหงื่อได้ดี  ป้องกันการเสียดสีของผิวหนังกับยูนิฟอร์มชั้นนอกได้ดีกว่าทหารอเมริกัน  ที่ใส่เสื้อชั้นในที่ทำจาก  ขนสัตว์  จากการนำขนแกะที่ได้จากเล็ม  มาแบ่งเกรดตามคุณภาพของเส้นใยแล้วนำมาผสมกัน  ตามด้วยการล้างไขมันและสิ่งสกปรกด้วยสบู่  แล้วนำมาเข้าสู่กระบวนการสร้างเส้นใย

     จากนั้นเส้นใยที่ได้จะถูกนำไปขึ้นรูปเป็นเส้นด้าย  ทำการรีดปุยก่อนนำไปขึ้นรูปเป็นเส้นด้าย  เพื่อนำไปทอเป็นผืนผ้า  และผืนผ้านี่และที่นำมาตัดเสื้อฝึกให้กับเหล่าทหารอเมริกัน  ที่ใส่แล้วร้อนแสนร้อน  ทั้งอับชื้น  ไม่โปร่ง  ไม่สบายตัว

     ส่งผลให้ผู้บัญชาการทหารทางฝั่งอเมริกาและสัมพันธมิตร  ปรับเปลี่ยนเสื้อชั้นในของเหล่าทหาร  จากผ้าขนสัตว์มาเป็นผ้าฝ้าย  จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของยูนิฟอร์มนับแต่นั้นเป็นต้นมา

     เมื่อสงครามโลกครั้งที่หนึ่งสิ้นสุดลง  เหล่าทหารกล้าผู้ร่วมรบได้เดินทางกลับสู่มาตุภูมิ  พร้อมกับแนวทางการสวมเสื้อฝึกกลับมายังประเทศต่างๆของตนด้วย  จนกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของผู้ชายส่วนใหญ่ที่นิยมใส่เสื้อฝึกเป็นเสื้อชั้นในแล้วสวมเสื้อชั้นนอกทับอีกที

     โดยลักษณะของเสื้อฝึกที่เป็นเสื้อคอกลมแขนสั้นนั้น  เมื่อกางออกจะมีลักษณะ  เหมือนตัว  T  ใหญ่  แต่เมื่อสวมหัวเข้าไปจะกลายเป็นตัว  t  เล็ก  จึงเรียกเสื้อฝึกกันติดปากกันว่า  ที-เชิร์ต  หรือที่คนไทยเรียกกันว่า  เสื้อยืด

     เมื่อการสวมเสื้อยืดเป็นที่นิยมอย่างมาก ถึงขนาดผู้สร้างสรรค์พจนานุกรมภาษาอังกฤษของอเมริกัน บรรจุคำว่า  T- shirt  เป็นหนึ่งในคำศัพท์ใหม่เอาไว้ในปี ค.ศ. 1920